วิธีกำจัดขนแนวบิกินี่ ให้เกลี้ยงเกลาไม่รุงรัง

วิธีกำจัดขนแนวบิกินี่ สำหรับสาวๆที่รำคาญขนในที่ลับ หรืออยากจะใส่บิกินี่ไปทะเลอย่างมั่นใจเต็มร้อย ก็ลองเลือกวิธีเหล่านี้ดูสิ

 คงไม่มีมนุษย์คนไหนอยากเป็นมนุษย์ขนดกหรอกจริงไหม แต่ในเมื่อธรรมชาตสร้างแบบนี้สาวๆก็ต้องหาวิธีแก้ที่เหมาะสมกันต่อไป อย่างบางคนก็ไม่มีคนที่แขนที่ขามากวนใจแต่ขนในที่ลับหรือที่เรียกว่าแนวบิกินี่ ก็คงหลีกเลี่ยงที่จะไม่มีเลยไม่ได้ ยิ่งวันไหนอยากใส่บิกินี่เล่นน้ำก็ต้องมาคอยนั่งเก็บให้มิด ทำให้ไม่มั่นใจไปอีก ดังนั้นเรามีวิธีกำจัดขนมานำนำ

1. การแว็กซ์ขนบริเวณแนวบิกินี่

วิธีนี้ถือว่าให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจเช่นกัน โดยหลังแว็กซ์ขนแล้วขนใหม่จะขึ้นราวๆ6สัปดาห์ แต่ก็ถือว่าเป็นวิธีกำจัดขนที่ฮาร์ดคอที่สุดเช่นกัน เพราะมันจะทำให้คุณเจ็บจิ๊ดเพราผิวหนังบริเวณแนวบิกินี่นั้นบอบบาง ฉะนั้นใครคิดอยากจะทำ ก็ต้องใจกล้าหน่อยแล้ว แต่รับรองว่าขนหลุดเกลี้ยงเกลาแน่นอน

2. การโกนขนบริเวณแนวบิกินี่

การกำจัดด้วยวิธีการโกนขนบริเวณแนวบิกินี่นี้เป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดที่สุด แต่มันไม่ได้ช่วยกำจัดขนเราแบบถึงรากถึงโคน ฉะนั้นผลลัพทธ์อาจจะไม่พึ่งพอใจสักเท่าไหร่ เพราแป๊ปเดียวขนก็จะขึ้นใหม่ทำให้เราต้องโกนขนบริเวณแนวบิกินี่ใหม่ แถมยังทำให้รู้สึกคันยิบๆด้วย

3. การใช้เครื่องถอนขนไฟฟ้าตรงบริเวณแนวบิกินี่

ถ้าไม่อยากใช้บริการกำจัดขนบิกินี่ที่ร้าน ก็อาจจะลงทุนซื้อเครื่องถอนขนไฟฟ้าเก็บไว้สักเครื่องก็ได้ เพราะสะดวก รวดเร็ว เวลาขนแนวบิกินี่ขึ้นแล้วอยากกำจัดก็ทำได้ทันที่ รับรองว่าดีกว่ามีดโกนแน่นอน

4. การใช้ครีมกำจัดขนบริเวณแนวบิกินี่

เดี๋ยวนี้มีครีมกำจัดขนขายเยอะมาก ซึ่งหากคุณเลือกวิธีนี้มากำจัดขนแนวบิกินี่ ก็ควรเลือกสูตรอ่อนโยนมาใช้ เพราะผิวบริเวณรอบบิกินี่นั้นบอบบางเป็นพิเศษ วิธีการก็ง่ายมากๆแค่ปาดครีมลงไปแล้ว ทิ้งไว้ซักพักตามที่ข้างกล่องบอก แล้วปาดออกได้เลย แค่นี้ก็เกลี้ยงเกลาแล้ว

5. การใช้เลเซอร์กำจัดขนบริเวณแนวบิกินี่

หากมีงบประมาณในการกำจัดขนมากพอ ก็อาจจะเลือกวิธีนี้ในการกำจัดขนก็ได้ เพราะมันเป็นวิธีที่ดีที่สุด และกว่าจะขึ้นใหม่ก็นานพอสมควรราวๆ 6-8 สัปดาห์ แต่หลังทำเสร็จควรเลี่ยงไม่ให้เหงื่อออกตรงบริเวณแนวบิกินี่ด้วย ไม่อย่างนั้นอาจจทำให้ระคายเคืองแสบแดงได้

                หากกำจัดขนแนวบิกินี่ด้วยวิธีเหล่านี้แล้ว ต่อไปจะได้ใส่ชุดว่ายน้ำได้อย่างมั่นใจเต็มร้อย โดยไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาเห็นอะไรแพลมออกมาจากแนวบิกินี่อีกเลย

6 วิธีเลือกบิกินี่ให้เก๋ไก๋

อากาศร้อนๆแบบนี้อาจจะทำให้ใครหลายๆคนเบื่อ แต่ก็ยังพอมีข้อดีที่สาวๆจะได้หยิบบิกินี่ตัวโปรดของคุณออกมาใส่รับอากาศร้อนสุดแสนสดใสริมทะเล ถือเป็นการผ่อนคลายที่ช่วยให้หายเบื่อการอากาศร้อน แต่จะหยิบบิกินี่มาใส่แบบมั่วๆกันได้อย่างไร  ของแบบนี้ต้องมีเทคนิคช่วยสักหน่อย

1. อกแบนเป็นไข่ดาว ลองใส่บิกินี่แบบผูกคอช่วยดูซิ

สาวอกไข่ดาวหลายคนคงลำบากใจไม่น้อยกับการเลือกบิกินี่ใส่ให้ตัวเองดูเซ็กซี่ แต่เรามีเทคนิคง่ายที่จะแก้ปัญหานี้ให้ลองใส่บิกินี่แบบผูกคอ หรือจะแบบเสริมฟองน้ำ ก็จะช่วยทำให้คุณดูมีหน้าอกขึ้นมาทันที่โดยที่ไม่ต้องศัลยกรรม
     2.  กังวลเรื่องหน้าพุง จะทำอย่างไรดี

สาวคนที่ไหนที่ไม่พร้อมฟิตแอนด์เฟิร์มไปโชว์หุ่นที่ชายหาดเลย ถ้าใส่บิกินี่ไปพุงย้วยยานออกมาก็อายหนุ่มแย่ๆเลย จะไปยากอะไร ลองหาเสื้อตาข่ายหรือชุดคลุมว่ายน้ำมาใส่ทับดูซิ หรือจะเป็นเสื้อเชิ๊ตสีขาวไม่หนามามาใส่ก็เพิ่มความหน้าสนใจได้นะ

3.  ก้นใหญ่ทำอย่างไง                                                                                                          

สาวๆที่กังวลเรื่องก้นใหญ่ กลัวมีคนเห็นเซลล์ลูไลท์ บอกได้คำเดียวเลยว่าไม่ใช่ปัญหา ลองเลือกใส่บิกินี่แบบกระโปรงดูซิ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความเซ็กซี่ที่ลดน้อยลง แต่คุณจะได้ความน่ารักใสๆคิขุมาแน่นนอน

     4.  ผิวคล้ำจะทำอย่างไรให้กระจางใส

ไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับ ผู้หญิงผิวคล้ำลองหาบิกินี่สีดำ สีเข้มใส่ดูซิ ไม่ต้องกังวลว่ามันจะดำกว่าเดิม เพราะที่จริงแล้วการใส่บิกินี่สีสดใสแสบตาต่างหากที่จะทำให้คุณกลายเป็นอีกาคาบพริก คนผิวคล้ำควรเลือกบิกินี่สีเข้มเพื่อสร้างแรงดึงดูที่ดูเซ็กซี่

5.  ฉันเตี้ยทำไงดีละ                                                                                                           

      ขอห้ามเลยนะกับคนตัวเตี้ยที่คิดจะใส่บิกินี่แบบเต็มตัว เพราะมันจะทำให้คุณดูตัวเติ้ยหนักกว่าเดิม ลองมองเป็นบิกินี่ที่ไม่ยาวจนเกินไป และเนื้อผ้าไม่หนามาก และถ้าหากใครต้นขาใหญ่ ลองเลือกบิกินี่ เว้าช่วงแบบขาสูงๆเลย เพราะจะทำให้ขาดูเรียวยาวขึ้น ไม่เตี้ยเหมือนเดิมแน่นอน

6. คนอ้วนแล้วจะเลือกบิกินี่อย่างไร ให้ดูผอมละ

สาวเจ้าเนื้อต้องหลีกเลี่ยงบิกินี่ประเภทลายดอที่มีสีสันแสบตาดีกว่า เพราะมันจะยิง่ทำให้คุณดูตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ชุดว่ายน้ำที่จะทำให้คุณดูดีขึ้น ก็หนีไม่พ้นลายกราฟฟิกสามเหลี่ยมที่สีสันไม่จัดจ้านมากนัก รับรองว่าต่อให้คุณอ้วนขนาดไหน ก็จะดูมีสไสต์มากขึ้นเลยทันที

บิกินี่แบบไหนที่เหมาะกับสไตส์คุณ

หน้าร้อนนี้สาวๆหลายๆคนยังไม่รู้จะเลือกบิกินี่แบบไหนใส่เดินเด่นให้เหล่าชายได้ยลโฉม เรามีคำแนะนำของบิกินี่แต่ละแบบ และกางเกงว่ายน้ำแต่ละตัวมาให้ดูกัน

แบบทูพีช หรือ บิกินี่ จะเป็นชุดว่ายน้ำสองชิ้นที่ประกอบไปด้วยบราในส่วนด้านบนที่ปกปิดหน้าอกและด้านล่างเป็นกางเกงว่ายน้ำ

แบบชิ้นบนบิกินี่

Tankini : เป็นบิกินี่ที่เป็นบราที่ยาวลงมาปิดช่วงหน้าท้อง ทำให้ดูน่ารักเรียบร้อยไปอีกแบบ

Ballet Bra : เป็บบราบิกินี่ที่เต็มตัว เรียบๆ เหมาะกับทุกสัดส่วน

Sport Bra : เป็นบราบิกินี่สำหรับนักกีฬา ที่ช่วยกระชับหน้าอก เพิ่มความทะมัดทะแมง ความคล่องตัวให้มากขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องหลุดอีกต่างหาก

Molded Bra : เป็นบราบิกินี่แบบที่มีโครงฟองน้ำ เหมาะสำหรับสาวอกเล็ก ช่วยเพิ่มสัดส่วนให้ชายหนุ่มนั้นสนใจ

Underwire : เป็นบราบิกินี่ที่มีโครงเป็นลวด ช่วยกระฉับทรงอกของสาวอึ๋มให้ดูเป็นรูปทรงมากกว่าเดิม

Bandeau : เป็นบิกินี่เกาะอก ช่วยเผยความเซ็กซี่ในตัวคุณให้หน้าดูมากยิ่งขึ้น

Halter : เป็นบิกินี่คล้องคอ ช่วยรั้งทรวงอกให้มีทรงสวยงาม

Triangle : เป็นบิกินี่บราสามเหลี่ยม ช่วยปกปิดหน้าอกของคุณให้ดูเซ็กซี่มากยิ่งขึ้น 

แบบชิ้นล่างกางเกงว่ายน้ำ สำหรับใส่คู่กับบิกินี่นั้นมีหลายแบบลองเลือกตามความเหมาะของผู้สวมใส่

Hipster : เป็นกางเกงว่ายน้ำที่ปิกแก้มก้นมิดชิด หรับสาวๆที่ไม่อยากเปิดเผยมาก

Hot Pant : เป็นกางเกงว่ายน้ำขาสั้น แต่ก็คล้ายๆ boy Leg จะเน้นในส่วนของตรงนั้นมากๆ เหมาะสำหรับสาวที่มีความมั่นใจ

Skater Skirt : เป็นกางเกงว่ายน้ำแบบที่มีกระโปรคลุมต้นขา น่ารักเรียบร้อย มิดชิด สำหรับสาวที่ต้องการแต่งแบบน่ารักใส

Tide Side : เป็นกางเกงว่ายน้ำแบบผูกเชือกด้านข้างที่กิ๊บเก๋ แต่ไม่เหมาะสำหรับสาวสะโพกใหญ่นะ

Thong : เป็นกางเกงว่ายน้ำแบบที่มีสายด้านข้างเส้นเล็กๆ โชว์ความเซ็กซี่ไปอีกแบบ

Brazilian Pant : กางเกงว่ายน้ำขาเว้าสูง ช่วยให้ดูขาเรียวยาวขึ้น เพิ่มความเซ็กซี่ร้อนแรกอีกระดับ

Clean High Waist : เป็นกางเกงว่ายน้ำเอวสูงปิดสะดื้อ ช่วยกระชับหน้าท้อง ดูวินเทจมากขึ้น

Sarong : เป็นผ้าคลุมท่อนล่าง สำหรับสาวที่ไม่ค่อยมั่นใจ หรือใช้นุ่งห่มเวลาเดินชายหาดสร้างความน่าค้นให้กับชายหนุ่มทั้งหลายได้ตาร้อนกันเป็นแถวๆ

 สุดท้ายนี้ใครจะใส่ท่อนบนแบบไหนหรือท่อนล่างแบบใดก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน

คำแนะนำการเลือกชุดวันพีขสำหรับสาวๆในหน้าร้อนนี้

สาวๆหลายคนคงคิดว่าชุดว่ายน้ำวันพีชไม่ว่าจะตัวไหนก็เหมือนกัน แต่คุณกำลังคิดผิดแล้ว ชุดว่ายน้ำแบบวันพีชนั้นมีหลายแบบหลายประเภท ในแต่ละแบบแต่ละประเภทก็เหมาะสำหรับคนแต่ต่างกันออกไปอีก เราจึงมีคำแนะนำดีๆในการเลือกชุดว่ายน้ำให้เหมาะสมกับตัวเองมาฝากกัน

ชุดว่ายน้ำวันพีช เป็นชุดที่มีชิ้นเดียวสามารถปิดบังจุดซ้อนเร้นได้ตั้งแต่หน้าออกยาวลงไปจนถึงขา ความยาวของชุดขึ้นอยู่กับแบบในแต่ละแบบของชุดเช่นกัน

Classic tank : ชุดว่ายน้ำแบบมาตราฐาน คลาสสิกสุดๆ ไม่ว่าใครก็ใส่ได้ และยังสามารถใส่ได้ทุกยุคทุกสมัยอีกด้วย
Skater Skirt : เป็นชุดว่ายน้ำที่มีกระโปรง สำหรับสาวๆที่ต้องการซ่อนเร้นช่วงต้นขาของคุณต่อสายตาหนุ่มๆ

Boy Leg : ชุดว่ายน้ำที่คลุมถึงต้นขา แนวสปอร์ต ดูทะมัดมะแมง ใครหลายๆคนอาจจะคิดว่าชุดนี้เป็นชุดที่มิดชิดแล้ว แต่ลองสังเกตดีดีซิคุณเห็นอะไร
Empire Waist : เป็นชุดว่ายน้ำที่มีเส้นกลางลำตัวหรือจั๊มเอวสูง ช่วยเพิ่มมิติให้เอวของคุณดูสูงขึ้น เหมาสำหรับสาวตัวเล็กที่ไม่อวบนะ

Princess Seam : เป็นชุดว่ายน้ำที่มีลายหรือตะเข็บด้านข้าง ทำให้ลำตัวดูเรียวขึ้น

Bandeau : เป็นชุดว่ายน้ำแบบเกาะอก เหมาะสำหรับสาวอกเล็ก เพราะจะทำให้หน้าอกเปิดกว้างและเน้นทรวงอกให้ดูเด่นได้ดี

Surplice : ชุดว่ายน้ำที่มีผ้าป้ายแทยงเฉียงไปข้างลำตัว เหมาะสำหรับคนตัวใหญ่ ชุดจะช่วยเก็บสัดส่วนของคุณได้ดีเลยทีเดียว
Monokini : ชุดว่ายน้ำที่มีการเจาะเว้าช่วงเอวหรือกลางลำตัว เพื่อให้ดูคล้ายกับว่ากำลังสวมทูพีช เหมาะสำหรับสาวที่อยากสวมแต่ยังไม่กล้าพอ

การเลือกชุดว่ายน้ำให้เหมาะสมกับสาวๆ

การเลือกใส่ชุดว่ายน้ำ

ชุดว่ายน้ำแบบวันพีช มีลักษณะเป็นชิ้นเดียวทั้งชุด แนบติดกับเนื้อ เราควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับตัวเอง แต่เรามีทริกเล็กๆน้อยๆมาฝากกันสำหรับสาวๆที่ยังเลือกชุดว่ายน้ำไม่ถูก ยังไม่มั่นใจในการเลือก

-          สาวๆที่มีหน้าท้องควรเลือกชุดวันพีชที่ช่วยกระชับรูปร่างได้ดี อย่างคอวีที่มีเส้นใยไลครา ทีท่อนบนควรเป็นสีอ่อนแล้วค่อยๆเพิ่มความเข้มตรงท่อนล่าง หรืออาจจะเลือกบิกินี่แบบกระโปรงเพื่อปิดบังหน้าท้องช่วยให้มั่นใจยิ่งขึ้น

-          หากสาวคนไหนมีต้นขาใหญ่ ควรหาชุดว่ายน้ำวันพีชที่มีกระโปรงเพื่อปิดบังต้นขาที่ใหญ่ของสาวๆ ซึ่งจะช่วยในการอำพรางต้นขาของคุณได้ดีทีเดียว

-          สำหรับสาวที่มีหน้าอกเล็ก หรือ อกไข่ดาว ควรหาชุดว่ายน้ำที่มีฟองน้ำแบบเสริมหน้าที่ใส่แล้วดูอกอิ๋ม สวย สมส่วนมากยิ่งขึ้น

-          ส่วนสาวคนไหนที่มีขาค่อนข้างสั้น ควรหาชุดวันพีชแบบที่มีช่วงเว้าขาสูงขึ้นไป จะช่วยทำให้ขาของคุณดูเรียวยาวสวยขึ้นไปอีก

ความเป็นมาของ " บิกินี่ (Bikini) "

ความเป็นมาของ " บิกินี่ (Bikini) " 

"บิกินี่" เป็นชุดว่ายน้ำสองชิ้นหรือเรียกว่า "ทูพีช"

 หากย้อนไปดูประวัติศาสตร์จากโบราณสถานและวัตถุต่างๆแล้วจะพบว่า ศิลปะยุคจักรวรรดิโรมัน ราว ค.ศ.285-305 มีผู้หญิงราว 10 คนใส่ชุดคล้ายบิกินี่  ในภาพโมเสกของพื้นอาคารวิลล่า โรมานา เดล คาซาเลในเมืองซิซีลี ประเทศอิตาลี คนรุ่นหลังจึงเรียกผลงานนี้ว่า Bikini Grils นอกจากนี้ นักโบราณคดียังพบ รูปปั้นเทพเจ้าวินัสใส่ชุดแบบบิกินี่ในเมืองปอมเปอี

คำว่า บิกินี่ เริ่มใช้เรียกชุดทูพีชในปี ค.ศ.1946 โดย หลุยส์ เรอารด์ วิศวกรยานยนต์ชาวฝรั่งเศษ นายคนนี้ช่วยดูกิจการร้านขายรองเท้าของแม่ในกรุงปารีส และสร้างงานประชันคู่แข่งที่นักออกแบบรุ่นเดียวกันชื่อ ณากส์ ไฮม์ ทั้งเรอารด์และไฮม์ต่างแข่งกันออกแบบชุดว่ายน้ำตัวเล็กที่สุดในโล ไฮม์เรียกผลงานของตัวเองว่า “อะตอม” พร้อมโฆษณาว่าเป็นชุดอาบน้ำตัวเล็กที่สุดในโลก ส่วนเรอารด์ นำเสอนชุดบิกินี่ เรียกตามชื่อ “บิกินี่ อะ ทอล” การทำการตลาดตอนแรกของเรอารด์ ไม่มีนางแบบกล้าใส่ เรอารด์จึงจ้างสาว มิเชลีน แบร์นาร์ดินี่ นักเต้นเปลือยกาย มาเป็นนางแบบและเปิดตัวในวันที่ 5 ก.ค. 1946 ในงานแฟชั่นริมสระที่กรุงปารีส ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ฮืฮา ถูกใจหนุ่มๆเป็นอย่างยิ่งจึงทำให้ ชุดบิกินี่แจ้งเกิดในเวลาเดียวกัน

ในปี ค.ศ.1913 เริ่มมีชุดทูพีชในมหกรรมโฮลิมปิก ออกแบบโดย คาร์ลแจนเซน ชิ้นหนึ่งเป็นกางเกงขาสั้น และอีกชิ้นหนึ่งเป็นเสื้อแขนกุด ต่อมาการออกแบบบิกินี่เริ่มหลากหลายและเผยหุ่นมากขึ้น พร้อมกับเป็นแฟชั่น ในวงการฮอลลีวู้ด จนถึงช่วงต้นยุคทศวรรษ 1940 สาวๆต่างใส่บิกินี่ตามชายหาดอย่างแพร่หลายและยาวมาจนถึงปัจจุบัน

บิกินี่ได้รับความนิยมเรื่อยามาในโลกตะวันตก รวมถึงประเทศเสรีในเอเชีย  แต่ไม่ใช้ผู้หญิงทุกกลุ่มในโลกจะนิยมชมชอบ เพราะนอกจากจะมีเรื่องวัฒนธรรมแล้ว สาวๆที่ใส่บิกินี่ยังต้องหุ่นดีอีกด้วย