วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ความเป็นมาของ " บิกินี่ (Bikini) "

ความเป็นมาของ " บิกินี่ (Bikini) " 
"บิกินี่" เป็นชุดว่ายน้ำสองชิ้นหรือเรียกว่า "ทูพีช"
 หากย้อนไปดูประวัติศาสตร์จากโบราณสถานและวัตถุต่างๆแล้วจะพบว่า ศิลปะยุคจักรวรรดิโรมัน ราว ค.ศ.285-305 มีผู้หญิงราว 10 คนใส่ชุดคล้ายบิกินี่  ในภาพโมเสกของพื้นอาคารวิลล่า โรมานา เดล คาซาเลในเมืองซิซีลี ประเทศอิตาลี คนรุ่นหลังจึงเรียกผลงานนี้ว่า Bikini Grils นอกจากนี้ นักโบราณคดียังพบ รูปปั้นเทพเจ้าวินัสใส่ชุดแบบบิกินี่ในเมืองปอมเปอี


คำว่า บิกินี่ เริ่มใช้เรียกชุดทูพีชในปี ค.ศ.1946 โดย หลุยส์ เรอารด์ วิศวกรยานยนต์ชาวฝรั่งเศษ นายคนนี้ช่วยดูกิจการร้านขายรองเท้าของแม่ในกรุงปารีส และสร้างงานประชันคู่แข่งที่นักออกแบบรุ่นเดียวกันชื่อ ณากส์ ไฮม์ ทั้งเรอารด์และไฮม์ต่างแข่งกันออกแบบชุดว่ายน้ำตัวเล็กที่สุดในโล ไฮม์เรียกผลงานของตัวเองว่า อะตอม พร้อมโฆษณาว่าเป็นชุดอาบน้ำตัวเล็กที่สุดในโลก ส่วนเรอารด์ นำเสอนชุดบิกินี่ เรียกตามชื่อ บิกินี่ อะ ทอลการทำการตลาดตอนแรกของเรอารด์ ไม่มีนางแบบกล้าใส่ เรอารด์จึงจ้างสาว มิเชลีน แบร์นาร์ดินี่ นักเต้นเปลือยกาย มาเป็นนางแบบและเปิดตัวในวันที่ 5 ก.ค. 1946 ในงานแฟชั่นริมสระที่กรุงปารีส ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ฮืฮา ถูกใจหนุ่มๆเป็นอย่างยิ่งจึงทำให้ ชุดบิกินี่แจ้งเกิดในเวลาเดียวกัน

ในปี ค.ศ.1913 เริ่มมีชุดทูพีชในมหกรรมโฮลิมปิก ออกแบบโดย คาร์ลแจนเซน ชิ้นหนึ่งเป็นกางเกงขาสั้น และอีกชิ้นหนึ่งเป็นเสื้อแขนกุด ต่อมาการออกแบบบิกินี่เริ่มหลากหลายและเผยหุ่นมากขึ้น พร้อมกับเป็นแฟชั่น ในวงการฮอลลีวู้ด จนถึงช่วงต้นยุคทศวรรษ 1940 สาวๆต่างใส่บิกินี่ตามชายหาดอย่างแพร่หลายและยาวมาจนถึงปัจจุบัน


บิกินี่ได้รับความนิยมเรื่อยามาในโลกตะวันตก รวมถึงประเทศเสรีในเอเชีย  แต่ไม่ใช้ผู้หญิงทุกกลุ่มในโลกจะนิยมชมชอบ เพราะนอกจากจะมีเรื่องวัฒนธรรมแล้ว สาวๆที่ใส่บิกินี่ยังต้องหุ่นดีอีกด้วย




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น